ม.การกีฬาแห่งชาติ ร่วมกับ 7 สมาคมกีฬา ลงนาม MOU มุ่งเน้นพัฒนากีฬา-ความร่วมมือกีฬาสู่ความเป็นเลิศ
เมื่อวันอังคารที่ 27 ก.พ.67 ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้จัดงานร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่าง มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ และ สมาคมกีฬาอีก 7 สมาคม ประกอบไปด้วย สมาคมกีฬาคนหูหนวกแห่งประเทศไทย , สมาคมกีฬาคอร์ฟบอลแห่งประเทศไทย ,สมาคมกีฬาจานร่อนแห่งประเทศไทย , สมาคมกีฬาซอฟท์บอลแห่งประเทศไทย , สมาคมกีฬาปีนหน้าผาแห่งประเทศไทย , สมาคมกีฬาผู้เปลี่ยนอวัยวะแห่งประเทศไทย และ สมาคมกีฬาวู้ดบอลแห่งประเทศไทย
โดยมีนายวิษณุ ไล่ชะพิษ ปฏิบัติหน้าที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ , ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฉัตร์ชัย แสงสุขีลักษณ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ฝ่ายกิจการนักศึกษาและกิจการพิเศษ พร้อมด้วย นายบริราช กาญจนาคม นายกสมาคมกีฬาคนหูหนวกแห่งประเทศไทย , นางสาวอัญชลินทร์ ศิวลักษณ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาคนหูหนวกแห่งประเทศไทย , รองศาสตราจารย์ ดร.สุปราณี ขวัญบุญจันทร์ นายกสมาคมกีฬาคอร์ฟบอลแห่งประเทศไทย , นางสาวอันธิกา ธรรมผาติ เลขาธิการสมาคมกีฬาคอร์ฟบอลแห่งประเทศไทย , ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อิษฎี กุฏอินทร์ นายกสมาคมกีฬาจานร่อนแห่งประเทศไทย
นายชนานันต์ สมาหิโต เลขาธิการสมาคมกีฬาจานร่อนแห่งประเทศไทย , นายยศไกร เพียรพาณิชย์พร นายกสมาคมกีฬาซอฟท์บอลแห่งประเทศไทย , นายภูวนัย ไวชมภู เลขาธิการสมาคมกีฬาซอฟท์บอลแห่งประเทศไทย , นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล นายกสมาคมกีฬาปีนหน้าผาแห่งประเทศไทย , นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา เลขาธิการสมาคมกีฬาปีนหน้าผาแห่งประเทศไทย , นายสัณหณัฐ สีจำปี นายกสมาคมกีฬาผู้เปลี่ยนอวัยวะแห่งประเทศไทย , ดร.พัฒนาชาติ กฤดิบวร นายกสมาคมกีฬาวู้ดบอลแห่งประเทศไทย และ นายปภาวิน อัตถศิลปกิจ เลขาธิการสมาคมกีฬาวู้ดบอลแห่งประเทศไทย ร่วมกันเป็นสักขีพยานในการลงนามในครั้งนี้
สำหรับโครงการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือของสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ทั้ง 7 สมาคม ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการดำเนินงานในการพัฒนากีฬาของสมาคมฯ ทางด้านวิชาการ และความร่วมมือกีฬาสู่ความเป็นเลิศ
โดยนายวิษณุ ไล่ชะพิษ ปฏิบัติหน้าที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ กล่าวว่า ในนามของมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ในการลงนาม MOU ครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดี และเป็นบทบาทใหม่ของการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งเป็นภารกิจที่เราที่ต้องพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนต่างๆ การจัดการแข่งขันในสถาบันการศึกษา เราหวังว่าในอนาคตจะมีกีฬาบรรจุเข้าไปในหลักสูตรการเรียนการสอนของเรา อย่างที่สอง ก็เน้นในการบริการสังคมและชุมชน เป็นอีกหนึ่งภารกิจที่เราต้องทำ แต่ว่าในการลงนามกับ 7 สมาคมกีฬาครั้งนี้จะเน้นไปที่การบริหารสมาคมมากกว่า เพื่อสร้างนักกีฬาให้กับประเทศชาติ ภารกิจสุดท้ายก็คือ พัฒนาศักยภาพของนักกีฬา โดยนักกีฬาที่เป็นตัวแทนของชาตินั้น เราก็จะดำเนินการในเชิงองค์ความรู้ด้วย เช่น หลักสูตรการเรียนการสอน รวมไปถึงการพัฒนาบุคลากรในเรื่องของนักกีฬา ผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน ซึ่งกีฬาเหล่านี้ไม่เป็นที่นิยมมากนัก จึงเป็นภารกิจหลักในการลงนามข้อตกลงในครั้งนี้ ขอขอบคุณสมาคมกีฬาทั้ง 7 สมาคมที่มาร่วมมือกับมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติครั้งนี้ ในการที่จะพัฒนาศักยภาพของนักกีฬา และบุคลากรในอนาคต
ขณะที่ ศาสตราจารย์ ดร.สุปราณี ขวัญบุญจันทร์ นายกสมาคมกีฬาคอร์ฟบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในนามของสมาคมกีฬาทั้ง 7 สมาคม ในวันนี้เรามีความคาดหวังอย่างมากที่จะนำ 7 ชนิดกีฬา เข้าไปมีส่วนร่วมในมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ รวมไปถึงโรงเรียนกีฬาต่างๆด้วย ซึ่ง 7 สมาคมกีฬานี้เป็นสมาคมกีฬาน้องใหม่ ยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก เราจะทำอย่างไรให้ชนิดกีฬาเหล่านี้แพร่หลายและเป็นที่นิยมของนักเรียน นักศึกษาและประชาชน เราจึงจำเป็นที่จะต้องเข้าไปในวงการการศึกษา อย่าง มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ที่มีทั้งการศึกษาในระดับมัธยม และ อุดมศึกษา นั่นคือการต่อยอดองค์ความรู้ ในเชิงกีฬาทั้ง 7 ชนิดกีฬา ซึ่งจะต่อยอดสู่การพัฒนานักกีฬาระดับเยาวชน และทีมชาติในอนาคต
นอกจากนั้นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก คือ เราจะเน้นพัฒนาหลักสูตรการเรียน การสอน ก็คือเราจะทำอย่างไรให้ 7 ชนิดกีฬาเหล่านี้ เป็นกีฬาทางเลือกในหลักสูตรของวิชาพลศึกษา หรือวิทยาศาสตร์การกีฬาและศิลปศาสตร์ต่างๆ ที่ทางมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติมี และเราจะต้องพัฒนาในตัวบุคลากรด้วย เพื่อที่ในอนาคตเราจะได้มีบุคลากรที่มีศักยภาพอยู่ตามสมาคมกีฬาต่างๆ ต่อยอดสู่การเป็นผู้ฝึกสอนและผู้ตัดสินในระดับนานาชาติ เราจึงเห็นว่าโรงเรียนกีฬาและมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ จะเป็นแหล่งสำคัญในการผลิตบุคลากรทั้ง 7 ชนิดกีฬาและจะพัฒนาได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต